ฉัตร เป็นเครื่องสูงสำหรับแขวน ปัก ตั้ง หรือเชิญเข้ากระบวนแห่เพื่อเป็นเกียรติยศ ฉัตรมีรูปร่างคล้ายร่มที่ซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ฉัตรถือเป็นของสูง เปรียบเสมือนสวรรค์ซึ่งเป็นศูนย์รวมจักรวาล
ประเภทของฉัตร
ฉัตรแขวนหรือปัก
เป็นเครื่องแสดงพระอิสริยยศของผู้ทรงฉัตร แยกเป็น 4 ชนิดคือ
1. เศวตฉัตร เป็นฉัตรผ้าขาวกว้าง มี 4 แบบ ดังนี้
1.1 พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร (นพ=เก้า ปฎล=ชั้น เศวต=สีขาว) เป็นฉัตร 9 ชั้น สำหรับพระมหากษัตริย์ที่ทรงรับพระราชพิธีบรมราชภิเษกตามโบราณราชประเพณีแล้ว ฉัตรแบบนี้เรียกโดยย่อว่า “พระมหาเศวตฉัตร” เป็นฉัตรผ้าขาว 9 ชั้น มีระบาย 3 ชั้น ขลิบทอง แผ่ลวด และมียอด เป็นราชกกุธภัณฑ์ของพระมหากษัตริย์ที่สำคัญที่สุด มีที่ใช้คือ ปักที่พระแท่นราชอาสน์ราชบัลลังก์ กางกั้นเหนือพระแท่นที่บรรทม ปักพระยานมาศ และแขวนกางกั้นพระโกศทรงพระบรมศพ เป็นต้น แต่โบราณมาไทยถือเศวตฉัตร เป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด เศวตฉัตร หมายถึง ความเป็นพระราชามหากษัตริย์เช่นเดียวกับมงกุฎของชาวยุโรป ตามประเพณีของพราหมณ์แต่เดิม เป็นเศวตฉัตร 6 ชั้น อันหมายถึง สวรรค์ 6 ชั้น ตั้งแต่ชั้นจตุมหาราชิกาจนถึงชั้นปรนิมมิตวสวัตดี ความหมายของฉัตร 9 ชั้นที่ใช้ในปัจจุบันหมายถึง ผู้ที่ชนะทั้ง 8 ทิศ ชั้นล่างสุด หมายถึงพระมหากษัตริย์ที่จะต้องทรงแบกภาระอันใหญ่หลวงในการดูแลประชาชนทั้ง 8 ทิศ ปัจจุบันมีพระมหาเศวตฉัตรแห่อยู่จำนวน 7 องค์ อันได้แก่
1. พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท (ท้องพระโรงกลางเหนือพระที่นั่งพุดตานถม)
2. พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท (เหนือพระแท่นราชบัลลังก์ประดับมุก)
3. พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน (เหนือพระแท่นราชบัลลังก์ เบื้องหน้าพระที่นั่งบุษบกมาลาฯ)
4. พระที่นั่งไพศาลทักษิณ(เหนือพระที่นั่งภัทรบิฐ)
5. พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน (มี 2 องค์ คือ เหนือพระแท่นราชบรรจถรณ์)
6. พระที่นั่งอนันตสมาคม (ท้องพระโรงกลางเหนือพระแท่นราชบัลลังก์)
1.2 สัปตปฎลเศวตฉัตร เป็นฉัตรขาว 7 ชั้น ซึ่งมีลักษณะอื่นๆ เหมือนพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ใช้สำหรับพระมหากษัตริย์ที่ยังมิได้ทรงรับพระบรมราชาภิเษก พระอัครมเหสี สมเด็จพระบรมราชินี สมเด็จพระยุพราช และสมเด็จพระบรมราชกุมารี โดยหากใช้กับสมเด็จพระอัครมเหสีและสมเด็จพระบรมราชชนนี เรียกว่า “สัปตปฎลเศวตฉัตร” หรือ “พระเศวตฉัตร 7 ชั้น” แต่ถ้าใช้กับสมเด็จพระยุพราชและกรมพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) เรียกว่า “พระบวรเศวตฉัตร”
1.3 เบญจปฎลเศวตฉัตร เป็นฉัตรขาว 5 ชั้น มีระบายขลิบทองแผ่ลวดซ้อน 2 ชั้น ใช้สำหรับพระราชวงศ์ที่ดำรงพระอิสริยยศชั้น “เจ้าฟ้า” พระมเหสีชั้นพระอัครราชเทวี พระอัครชายาเธอ สมเด็จพระสังฆราชที่ได้รับมหาสมณุตมาภิเษกเป็น “สมเด็จพระมหาสมณเจ้า” และกรมพระราชวังบวรสถานพิมุข
1.4 เศวตฉัตร 3 ชั้น เป็นฉัตรขาว 3 ชั้น มีระบายขลิบทองแผ่ลวดซ้อน 2 ชั้น ใช้สำหรับสมเด็จพระสังฆราช
2. ฉัตรขาวลายทอง
เป็นฉัตรพื้นสีขาวเขียนลายทอง มี 5 ชั้น สำหรับพระบรมราชวงศ์ชั้นพระองค์เจ้า ที่ดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าต่างกรมชั้น “สมเด็จกรมพระยา”
3. ฉัตรตาด มี 2 แบบคือ
– ฉัตรตาดขาว 5 ชั้น เป็นฉัตรสำหรับพระราชโอรส หรือพระราชธิดาของพระมหากษัตริย์ที่ดำรงพระอิสริยยศเป็นพระองค์เจ้าต่างกรม ชั้น “กรมพระ”
– ฉัตรตาดเหลือง 5 ชั้น เป็นฉัตรสำหรับพระราชโอรส หรือพระราชธิดาของพระมหากษัตริย์ที่ดำรงพระอิสริยยศเป็นพระองค์เจ้าต่างกรม ชั้น “กรมหลวง” กับเป็นฉัตรสำหรับสมเด็จพระสังฆราชเจ้า
4. ฉัตรโหมด มี 5 แบบคือ
– ฉัตรโหมดขาว 5 ชั้น สำหรับพระราชโอรส หรือพระราชธิดาของพระมหากษัตริย์ที่ดำรงพระอิสริยยศป็นพระองค์เจ้าต่างกรม ชั้น “กรมขุน”
– ฉัตรโหมดเหลือง 5 ชั้น สำหรับพระราชโอรส หรือราชธิดาของพระมหากษัตริย์ที่ดำรงพระยศเป็นพระองค์เจ้าต่างกรม ชั้น “กรมหมื่น”
– ฉัตรโหมดทอง 5 ชั้น สำหรับพระราชโอรส หรือพระราชธิดาของพระมหากษัตริย์ที่ดำรงพระยศเป็นพระองค์เจ้า แต่มิได้ทรงกรม
– ฉัตรโหมดเงิน 3 ชั้น สำหรับพระราชโอรส หรือพระราชธิดาในสมเด็จพระบวรราชเจ้าที่ดำรงพระยศเป็น พระองค์เจ้าต่างกรม
– ฉัตรโหมดทอง 3 ชั้น สำหรับพระราชโอรส หรือพระราชธิดาในสมเด็จพระบวรราชเจ้าที่มิได้ทรงกรม
ฉัตรสำหรับตั้งในพิธี หรืออัญเชิญเข้ากระบวนแห่เป็นเกียรติยศ
– พระมหาเศวตฉัตรกรรภิรมย์ เป็นฉัตร 5 ชั้น ทรงชะลูดลงเลขยันต์ ใน 1 สำรับมี 2 องค์ ได้แก่ พระเสนาธิปัตย์ และ พระเกาวพ่าห์
– พระอภิรุมชุมสาย หรือ ฉัตรเครื่องสูงหักทองขวาง เป็นฉัตรเครื่องสูงประกอบพระเกียรติยศสำหรับพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศ์ผู้ทรงสัปตปฎลเศวตฉัตร ทำด้วยผ้าปักหักทองขวาง ใช้ปักประจำพระที่นั่งหรือแห่ในกระบวนแห่ทางสถลมารคและชลมารค ใน 1 สำรับ ประกอบด้วยฉัตรชุมสายหักทองขวาง 3 ชั้น ฉัตรหักทองขวาง 5 ชั้นและ 7 ชั้น รวมทั้งบังแทรกและบังพระสูรย์หักทองขวาง
– ฉัตรเครื่องสูงทองแผ่ลวด เป็นฉัตรเครื่องสูงประกอบพระเกียรติยศสำหรับพระบรมวงศ์ชั้น เจ้าฟ้า และพระบรมวงศ์ที่ได้รับพระราชทานเบญจปฎลเศวตฉัตร ทำด้วยผ้าปักทองแผ่ลวด ใช้ปักประดับพระเกียรติยศหรือแห่ในกระบวนแห่ทางสถลมารคและชลมารค ใน 1 สำรับ ประกอบด้วยฉัตรชุมสายทองแผ่ลวด 3 ชั้น (เฉพาะสำหรับเจ้าฟ้า) ฉัตรทองแผ่ลวด 5 ชั้นและ 7 ชั้น รวมทั้งบังแทรกและบังพระสูรย์ทองแผ่ลวด นอกจากนี้ ยังใช้แห่ในกระบวนพระอิสริยยศอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุหรือพระพุทธรูปสำคัญ
– ฉัตรเครื่องสูงวังหน้า เป็นฉัตร 3 ชั้น สำหรับเป็นเครื่องสูงของสมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรสถานมงคล
– ฉัตรเครื่อง เป็นฉัตร 5 ชั้น ทำด้วยผ้าปักทองแผ่ลวด สำหรับใช้เชิญออกในกระบวนแห่ศพของพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ชั้นสมเด็จพระราชาคณะ ผู้มีบรรดาศักดิ์ ชั้นเจ้าพระยา (ทั้งชั้นพระสุพรรณบัฏและหิรัญบัฏ) ประธานองคมนตรี องคมนตรี นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา ประธานศาลฎีกา ที่ถึงแก่อสัญกรรมขณะอยู่ในตำแหน่ง (ผู้ได้รับพระราชทานโกศกุดั่นน้อย โกศราชวงศ์ โกศมณฑป และโกศไม้สิบสอง)
– ฉัตรเบญจา เป็นฉัตร 5 สี ซึ่งหมายรวมไปถึงฉัตรที่เขียนลายที่เรียกว่า “ฉัตรกำมะลอ” ด้วยฉัตรชนิดนี้ใช้สำหรับเชิญตั้งหรืออัญเชิญเข้าร่วมขบวนแห่ในงานศพของพระราชวงศ์ชั้น “หม่อมเจ้า” ที่ไม่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพาย และชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ พระราชาคณะชั้นรองสมเด็จและชั้นธรรม (ผู้ได้รับพระราชทานโกศแปดเหลี่ยม โกศราชินิกุล โกศโถ รวมทั้งหีบทองทึบและหีบทองลายสลักในบางกรณี)
– ฉัตรราชวัติ เป็นฉัตรที่ใช้ปักเป็นระยะในงานพระราชพิธีสำคัญของพระมหากษัตริย์
ฉัตรที่ใช้ประดับบนยอดพระโกศที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระราชวงศ์
– ฉัตรปรุทองคำกรุผ้าขาว 9 ชั้น สำหรับพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์
– ฉัตรปรุทองคำกรุผ้าขาว 7 ชั้น สำหรับพระบรมอัฐิของสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก สมเด็จพระบรมราชชนก สมเด็จพระบรมราชชนนี สมเด็จพระอัครมเหสี
– ฉัตรปรุทองคำ 7 ชั้น สำหรับพระอัฐิของสมเด็จพระบวรราชเจ้า
– ฉัตรปรุทองคำ 5 ชั้น สำหรับพระอัฐิของสมเด็จรัชทายาทสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอที่ได้รับการสถาปนาพระเกียรติยศเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราชเทียบเท่ากับสมเด็จพระรัชทายาท
อ้างอิงข้อมูลจาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี